วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2553

cvs. โรคอันตรายจากคอมพิวเตอร์

สวัสดีคับ ยุคนี้ไม่ว่าใครก็ใช้คอมพิวเตอร์ทำงานกันทั้งนั้น บางคนนั่งจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์วันละหลายชั่วโมง และคุณทราบไหมคะว่าการนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์แบบไม่ถูกวิธีอาจทำให้คุณมีอาการผิดปกติที่เรียกว่า Computer Vision Syndrome หรือ CVS ซึ่งจะคุกคามสุขภาพของเราได้คับ..

นี่แหละอาการ CVS Computer Vision Syndrome หรือ CVS คือกลุ่มอาการที่เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ ซึ่งมักจะเกิดอาการดังนี้คับ...
- เมื่อยล้าในลูกตา
- ปวดเบ้าตา
- มีอาการอ่อนล้าทางประสาทตา ตามัวหรือเห็นภาพซ้อน รู้สึกไม่สบายตา
- ตาสู้แสงไม่ได้ ตาแห้ง แสบตา
- มีรอยดำคล้ำบริเวณตา หรือมีรอยบวมเห็นเป็นถุงใต้ตาโปนออกมา

นอกจากนี้อาจจะมีอาการปวดศีรษะ ปวดคอ ปวดไหล่ และปวดหลังอีกด้วย ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะพบในผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์ต่อเนื่องมากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวันเป็นประจำคับ

สาเหตุ CVS
อาการปวดตาและแสบตาเกิดขึ้นจากการที่ตาแห้งและกล้ามเนื้อตาเกร็งตัวเนื่องจากลืมกะพริบตาเพราะมีสมาธิจดจ่ออยู่กับข้อมูลบนจอคอมพิวเตอร์นานเกินไป สามารถแก้ไขได้โดยกะพริบตาบ่อยๆ เมื่อรู้สึกตัวว่าปวดตาหรือแสบตา อาจใช้น้ำตาเทียมหยอดตาบ้างก็จะช่วยบรรเทาอาการปวดตาและแสบตาได้เช่นกัน ส่วนอาการตามัวหรือปวดศีรษะเป็นอาการที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว เมื่อพักสายตาแล้วส่วนใหญ่อาการก็จะดีขึ้นคับ

นอกจากนี้แสงสะท้อนจากจอคอมพิวเตอร์ และการที่แสงสว่างจากหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือแสงสว่างในห้องไม่เหมาะสม ทำให้ต้องเพ่งสายตาทำงานในระยะใกล้เป็นเวลานานๆ ก็ทำให้กล้ามเนื้อตาที่ใช้ในการเพ่งมองเกิดตึงและเกร็งก็จะนำมาซึ่งอาการปวดตาและปวดศีรษะได้คับ

ส่วนอาการอื่นๆ มีผลจากการวางคอมพิวเตอร์ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม ทำให้ต้องนั่งในท่าผิดปกติเป็นระยะเวลานาน จนเกิดปัญหากับกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ส่งผลให้เกิดอาการปวดที่กระดูกข้อมือ ปวดไหล่ ปวดคอ รวมถึงปวดหลังได้คับ

การป้องกัน CVS คุกคาม
1. วางจอคอมพิวเตอร์ให้มีระยะห่างจากระดับสายตา 20 – 24 นิ้ว และวางอยู่ระดับที่ต่ำกว่าระดับสายตา 10 – 20 องศา ซึ่งเป็นมุมในการมองคอมพิวเตอร์ที่ช่วยให้สบายตาที่สุด
2. ปรับแสงสว่างเหมาะสม เริ่มต้นที่ความสว่างของห้องเพียงพอ ส่วนความสว่างบริเวณรอบจอและความสว่างของหน้าจอคอมพิวเตอร์ควรปรับให้สว่างเท่าๆ กับความสว่างของห้อง เพื่อไม่ให้แสงจ้ามากเกินไป
3. ใช้แผ่นกรองแสงเพื่อช่วยลดแสงสะท้อนติดที่หน้าจอ และจัดแสงภายในห้องทำงานไม่ให้มีแสงสะท้อนมาที่จอคอมพิวเตอร์ เพราะจะทำให้แสงสว่างสะท้อนเข้าตามากกว่าปกติ และแสงสะท้อนยังทำให้หน้าจอสว่างจนมองเห็นไม่ชัดเจนจึงต้องเพ่งสายตามากเกินไปค่ะ
4. ขนาดของตัวหนังสือบนหน้าจอควรจะมีขนาดประมาณ 3 เท่าของขนาดตัวหนังสือที่เล็กที่สุดที่สามารถอ่านได้จากจอคอมพิวเตอร์ในระยะเดียวกัน ส่วนสีของตัวหนังสือควรเป็นสีดำบนพื้นสีขาวค่ะ
5. ฝึกนิสัยกะพริบตาอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้มีการคลายกล้ามเนื้อ และพักสายตาที่ใช้ในการมองใกล้โดยให้มองไปในที่ไกลๆ นานประมาณ 1-2 นาที อย่างน้อย 1-2 ครั้งทุกชั่วโมง และหยุดพักการทำงานประมาณ 5-15 นาที ทุก 1-2 ชั่วโมง
6. หากสายตายาว ควรใช้แว่นสายตาชนิด Progressive lens ซึ่งมีช่วงการมองหรือจุดโฟกัสหลายระดับ โดยเฉพาะที่สำคัญคือระยะกลาง (intermediate zone) ซึ่งเป็นตำแหน่งของจอคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้ควรเลือกเลนส์แว่นตาแบบเคลือบสารที่ป้องกันการสะท้อนเพื่อช่วยลดการสะท้อนของแสงเข้าตาคับ
7. สำหรับปัญหาปวดคอ ปวดไหล่ และปวดหลัง นอกจากจะแก้ด้วยการจัดระดับจอคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมแล้ว ท่านั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ถูกต้องก็มีความสำคัญ โดยควรนั่งตัวตรง เอนหลังไปด้านหลังเล็กน้อย แขนทั้งสองในขณะกดแป้นพิมพ์ให้อยู่ในแนวขนานกับพื้น ส่วนเท้าควรวางราบกับพื้นคับ

ที่มา : http://www.oknation.net/blog/khingchomphuu/2008/06/18/entry-1

1 ความคิดเห็น:

  1. การใช้งานคอมพิวเตอร์นานๆๆ มันก็ต้องมีโทดอยู่แล้วและคับ เพราะมัน จะทำให้เรา ปวดเมื่อย เจ็บตา หรือ มึนหัว หากเล่นนานๆ หรือ ทุกวัน อยู่แต่หน้าจอคอม กล่ายเป็นเด็ก ติดคอม อาจส่งผผลกระทบ ต่อปัญหาสุขภาพ คือ ปัญหาต่อสายตา และปัญหาเรื่องค่าไฟได้คับ

    ตอบลบ