วันศุกร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2553

5 เทรนด์เทคโนโลยี ปี 2553



.....................................................................

โดยปกติงาน "คอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ โชว์" (CES) ที่เริ่มต้นในช่วงหลังปีใหม่ บรรดาผู้ผลิตมักขนผลิตภัณฑ์ใหม่มาโชว์กัน และเป็นแหล่งรวมเทรนด์เทคโนโลยีใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น

LiveScience.com รายงานเทรนด์ด้านเทคโนโลยีในปี 2553 ที่รวบรวมโดยผู้จัดงาน CES ว่า

เทรนด์แรก คือ เทรนด์ 3 มิติ และทีวีเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต โดยในปีหน้าจะมีภาพยนตร์ 3 มิติหลายเรื่อง ซึ่งจะผลักดันอุตสาหกรรมทีวีและภาพยนตร์ โดยเฉพาะการชม 3 มิติภายในบ้าน ซึ่งเริ่มมีหลายบริษัทโฟกัสไปที่การผลิตสินค้าเกี่ยวกับ 3 มิติในปีนี้ และน่าจะมีบริษัทอีกหลายแห่งเข้าร่วมเทรนด์นี้ในปีหน้า

นอกจากนี้ ทีวีที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็มาแรง เพราะไม่ว่าอย่างไรชีวิตของคนยุคปัจจุบันก็หนีไม่พ้นอินเทอร์เน็ต รวมถึงทีวี ซึ่งผู้ผลิตหลายรายกำลังพัฒนาทีวีที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต และบรรดาแอพพลิเคชั่นสำหรับใช้กับทีวี ซึ่งหมายความว่าทุกๆ อย่างที่เคยใช้งานบนเครื่องคอมพิวเตอร์จะสามารถใช้งานผ่านทีวีได้เช่นกัน

เทรนด์ที่ 2 เทรนด์การขายคอนเทนต์และการสมัครสมาชิก ซึ่งเป็นความพยายามของบริษัทที่จะต่อกรกับการละเมิดลิขสิทธิ์ และความต้องการเพิ่มรายได้จากคอนเทนต์ในทุกๆ รูปแบบ ทั้งข่าว รายการทีวี เพลง หนังสือ และภาพยนตร์ โดยบริษัทจะนำคอนเทนต์ที่มีมารวมเพื่อสร้างพันธมิตรและนำเสนอเป็นแพคเกจ อาทิ การสมัครสมาชิกรายเดือน ซึ่งผู้สมัครจะได้รับคอนเทนต์จากผู้ให้บริการเป็นบางส่วน แต่ไม่ใช่ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ยังเป็นปัญหาที่ต้องขบคิดต่อไปว่าบริษัทจะสามารถบริหารคอนเทนต์ข้ามสื่อ ระหว่างทีวี คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือได้อย่างไร ท่ามกลางยุคที่ผู้ใช้ต้องการเสพเนื้อหาจากอุปกรณ์ที่หลากหลาย

เทรนด์ที่ 3 แท็บเล็ต พีซี หรืออุปกรณ์ที่ใหญ่กว่ามือถือแต่เล็กกว่าโน้ตบุ๊ค โดยปัจจุบันมีโทรศัพท์มือถือที่หน้าจอใหญ่กว่า 4 นิ้ว เน็ตบุ๊คและแล็บทอปที่มีหน้าจอตั้งแต่ 10-17 นิ้ว ขณะที่อุปกรณ์หน้าจอ 5-9 นิ้วยังไม่ค่อยมี ทำให้ผู้ผลิตหลายรายพยายามจะเติมเต็มตลาดในส่วนนี้ ซึ่ง "แท็บเล็ต" (Tablet) หรืออุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบพกพา ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงอินเทอร์เน็ต ดูหนัง และฟังเพลงได้สะดวกกว่าใช้เครื่องแล็บทอป ขณะเดียวกับก็มีหน้าจอที่ใหญ่กว่ามือถือ ซึ่งคาดว่าหลายบริษัทน่าจะเปิดตัวอุปกรณ์ในแคธิกอรีนี้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม เน็ตบุ๊คยังคงมาแรงในปีหน้า เนื่องจากยอดขายยังไปได้ดี และมีการผลิตมากขึ้น นอกจากนี้ อินเทล ยังเตรียมเปิดตัวโปรเซสเซอร์สำหรับทำให้เครื่องเน็ตบุ๊คมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

เทรนด์ที่ 4 แอพพลิเคชั่นเป็นผู้คุมกฎ ดังจะเห็นได้จากการที่แอปเปิลใช้โมเดลนี้กับ "ไอโฟน" และ "ไอพอด" เพราะผู้คนต้องการเลือกฟังก์ชั่นที่จะใช้กับอุปกรณ์ของตัวเอง และแอพพลิเคชั่นก็จะทำให้ผู้ใช้สร้างความเป็นส่วนตัวให้กับอุปกรณ์ของตัวเองตามที่ต้องการได้ ซึ่งนี่ทำให้ผู้ผลิตต่างพากันคิดค้นแอพพลิเคชั่นและซอฟต์แวร์เฉพาะที่จะใช้กับอุปกรณ์ที่ตัวเองผลิตขึ้น โดยเทรนด์นี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะแต่มือถือ หากแต่ยังขยายไปถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ อาทิ ทีวี แล็บทอป และทาเบล็ต ที่จะอยู่หรือจะไปก็เพราะแอพพลิเคชั่นที่โดนใจหรือไม่

เทรนด์ที่ 5 "โกอิ้ง กรีน" ยังเป็นเทรนด์ยอดนิยม แม้จะไม่ใช่เทรนด์ใหม่ เพราะเทรนด์สีเขียวได้กลายเป็นสิ่งสำคัญมากขึ้น ทำให้ผู้ผลิตต่างพากันใช้เรื่องนี้เป็นจุดขาย ตั้งแต่อุปกรณ์ที่ใช้พลังงานน้อยลง กระบวนการผลิตที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ บริษัทจะทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่ามีความรับผิดชอบต่อสังคมหากใช้เงินซื้อผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจโลกเหล่านี้ แม้จะมีราคาแพงกว่าเดิม

อ้างอิง http://www.wiseknow.com/content/view/2477/1

ขอขอบคุณ เว็ป WiseKnow.Com

1 ความคิดเห็น: